"ขอตายในผ้าเหลือง" หลวงพ่อธัมมชโย

15:20:00 Unknown 0 Comments

                                                  
        
             
          ทำใจของเราให้เบิกบานให้แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส นึกถึงความดี บุญกุศลที่เราได้ทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ที่เราพอจะระลึกได้ ตั้งแต่เราได้ช่วยกันสร้างวัดพระธรรมกายกันขึ้นมาตั้งแต่เป็นท้องไร่ท้องนา มีหนองน้ำ มีบัวขึ้น มีดอกโสนเต็มมีรังนกกระจาบไปอาศัยอยู่ที่นั่น หน้าวัดไม่มีลูกลังลง เวลาจะขับรถขับรามาเนี่ยถ้าฝนตกรถก็จะสไลด์ลงคลองกันไปทุกที ในที่นี้ก็คงมีบางท่านได้เคยปลูกต้นไม้มากับมือบางคนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ด้วยซ้ำไป ได้ปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาหวังว่าสักวันหนึ่ง จะได้อาศัยร่มเงานี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมและก็แบ่งปันร่มเงานี้ให้กับผู้มีบุญ ที่มาภายหลังได้อาศัยโคนไม้ปฏิบัติธรรม ให้นกให้กาได้อาศัยรุกขเทวดามีวิมานให้อิงแอบอาศัยอยู่กับต้นไม้ เมื่อได้มี การอบรมธรรมทายาทก็ได้อาศัยร่มเงาของต้นไม้นั่นแหละ ปฏิบัติธรรม ชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ทำใจหยุดใจนิ่งให้เข้าถึงพระธรรมกายกัน มีความสุข มีปีติ มีความเบิกบานมีกำลังใจที่จะทำความดี เป็นคนดีของชาติ คนดีที่โลกต้องการ และก็ได้ช่วยกันสร้างอาคารต่างๆขึ้นมาเป็นที่พักสงฆ์ มีโบสถ์ มีศาลาที่ประพฤติธรรม ทำทุกอย่างเรื่อยกันมาจนกระทั่งมีมหาชนผู้มีบุญทั้งหลายได้อาศัยสิ่งที่เรา ได้ช่วยกันสร้างมาด้วยความยากลำบากประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างบารมี ฝึกฝนตัวเองให้เป็นคนดีมากมายก่ายกอง จนกระทั่งเต็มวัดล้นวัดจึงค่อยๆขยายออกมานอกวัด ได้สร้างสภาธรรมกายสากลหลังคาจากขยายกว้างกว่าเดิมจุได้หมื่นกว่าคน ก็ได้อาศัยที่นั้นแหละ ประพฤติปฏิบัติธรรม ฟังธรรม บูชาข้าวพระกันอย่างต่อเนื่องกันเรื่อยๆมา วันธรรมดาก็มีมาปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ก็มาฟังธรรมอยู่ธุดงค์กัน อาทิตย์ต้นเดือนก็บูชาข้าวพระ 

            เดี๋ยว นี้คำว่า ‘อายตนะนิพพาน’ เขาห้ามพูดคือตอนนี้เขาตั้งคณะกรรมการเข้ามา มีทั้งพระทั้งฆราวาสจะมาดูแลการสอนหลวงพ่อในสภาเนี่ย ทุกอาทิตย์สิ่งที่เขาไม่ค่อยอยากให้หลวงพ่อพูดก็มีเรื่องนิพพาน ตรงนี้หลวงพ่อกลัวเผลอจังเลยเพราะใจมันคุ้น คำมันก็คุ้น คุ้นมาตั้งแต่ก่อนบวช ศึกษา แสวงหาครูบาอาจารย์หาความรู้ตามตำรับตำราเนี่ย ศึกษาทุกศาสนา แต่มาชอบพระพุทธศาสนาและก็ศึกษากันเรื่อยๆกันมา คุ้นกับคำว่านิพพาน มันอยากไปน่ะ อยากไปนิพพานจัง พอมาเจอยาย เจอวิชชาธรรมกาย ก็มีแต่เรื่องนิพพานทั้งนั้น ก็ชอบ คุ้นกับคำนี้น่ะและก็มุ่งจะไปคำนี้ จิตมันไปตรงนั้นซะด้วย พอบวชแล้วพอเข้าโบสถ์ มีปีติทีเดียวน่ะเวลาที่ถือไตรจีวรเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ พอเปล่งคำว่าจะทำพระนิพพานให้แจ้งที่บวชครั้งนี้ มันมีปีติ ขนลุกซู่ชูชันทีเดียวนะ ชอบคำนี้บวชแล้วก็แสวงหาสิ่งนี้  เจอใครก็พูดกันอย่างนี้เรื่อยมาโดยเฉพาะวันอาทิตย์ ทุกๆอาทิตย์ ที่มีคนมาร่วมปฏิบัติธรรมด้วยก็จะพูดเรื่องนิพพานเรื่อยมา ตลอดเลย มันก็คุ้นคำนี้น่ะ เพราะฉะนั้นน่ะ จะมีเผลอๆถ้าเอ็นดูหลวงพ่อบ้างเนี่ย คนเฒ่าคนแก่อายุ ๕๕ ปี ท่านที่ได้รับภาระการดูแลมาจะมาด้วยตัวเอง หรือจะส่งใครมาก็แล้วแต่ ก็อย่าถือเป็นเรื่องใหญ่โตเลยในกรณีที่หลวงพ่อเผลอๆไผลๆ ที่ชวนใครไปนิพพาน แล้วพูดคำว่านิพพาน  หรือว่าอายตนะนิพพานอะไรต่างๆ ใจมันไปตรงนั้นคำมันก็ไปตรงนั้น ก็ไม่รู้จะทำยังไง 

            ถ้าจะให้ดีเนี่ย หลวงพ่อว่านะมาพิสูจน์กันดีกว่า พิสูจน์อย่างไร ลงมือนั่งปฏิบัติเอาสิจ๊ะ เหมือนทองเนี่ยแม้อยู่ในดินอยู่ในหินมันต้องถลุงอ่ะ ถึงจะเอาทองมาได้ ทรัพย์ในตัว ธรรมะในตัว นิพพานในตัว จะได้มาก็ต้องถลุงด้วยตัวเองน่ะ ฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง ปฏิบัติธรรมไปทำให้มันถูกวิธีเถอะแล้วไปพิสูจน์เอาก็แล้วกันว่ามันเป็น อย่างไร ถ้ามีไม่จริงเราก็เลิกกัน มีจริงเราก็เลิกกันอีก คือเลิกทะเลาะกัน เลิกว่าร้ายกัน เลิกห้าม ตอนนี้เนี่ยกังวลตรงนี้นิดนึง เกิดมาไม่ค่อยจะเคยกังวลเรื่องอะไร กังวลกลัวเผลอชวนคนไปนิพพาน แต่ถ้าพระไม่พูดเรื่องนิพพานเนี่ย ก็ไม่รู้จะให้พูดเรื่องอะไร จะให้พูดเรื่องไปค้าขายโน่นขายนี่หรือไปว่าร้ายคนโน้นคนนี้ มันก็พูดไม่เป็น ทำไม่เป็น ต้องขออภัยด้วย สำหรับผู้ที่กำลังมาจ้องจับคำนี้โดยหน้าที่หรือโดยจิตสำนึก หรือโดยอะไรก็แล้วแต่ ให้อภัยคนเฒ่าคนแก่สักคนนึงน่ะ ในสภาธรรมกายสากลได้นำพวกเราบูชาข้าวพระก็ทำกันเรื่อยมาจนกระทั่งล้นสภา ธรรมกายสากลกลายมาเป็นสภาธรรมกายสากลใหม่ที่เรากำลังนั่งกันอยู่นี่แหละ ช่วยกันสร้างด้วยความลำบาก แต่ละคนไม่ใช่เศรษฐี มีเงินมีทอง ก็เก็บหอมรอมริบกันมาเอามาช่วยกันสร้าง สร้างเพื่อจะได้อาศัยพื้นที่นี้ประพฤติปฏิบัติธรรม และก็แบ่งปันให้กับผู้มีบุญที่มาภายหลังมาอาศัยสถานที่นี้ปฏิบัติธรรมกันไป หวังจะจูงมือไปทำความดี ไปสู่สิ่งที่ดีๆสร้างคนดีที่โลกต้องการให้เกิดขึ้น สร้างคนดีในสังคมให้เกิดขึ้นเพราะเราดีคนเดียวไม่ได้ ถ้าเราดีคนเดียว เดี๋ยวคนไม่ดีก็เบียดเบียนเรา ทั้งหมดนี้เป็นบุญเป็นกุศลของลูกๆทุกๆคน เราก็นึกถึงบุญอันนี้เอาไว้นะ ให้จิตชุ่มชื่น เบิกบาน 

หลวงพ่อเชื่อว่ามวลมนุษยชาติล้วนปรารถนาความสุข แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน จะเข้าถึงได้อย่างไรน่ะจึงพลาดพลั้งไปทำบาปกรรมซึ่งเป็นทางมาแห่งความทุกข์ กรรมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ย่อมให้ผลเสมอ กรรมบางอย่างก็ให้ผลเร็วส่งผลในปัจจุบันนี้ทีเดียว แต่บางอย่างก็ให้ผลช้า จะส่งผลในภายภาคหน้า ถ้าทำความดีก็จะได้รับผลดี ทำชั่ว ก็จะได้รับผลชั่ว ผลของบาปจะต้องตามเบียดเบียนเหมือนล้อเกวียนที่ตามบดขยี้รอยโคฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “คนพาลมีปัญญาทราม แม้กระทำกรรมชั่วอยู่ ก็ไม่รู้สึกตัวเขาย่อมจะเดือดร้อนเพราะการกระทำของตน เหมือนถูกไฟไหม้ฉะนั้น” คนพาลนะลูกนะแม้ประพฤติชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ก็ไม่รู้สึกตัว ว่าได้ทำบาปอกุศลเพราะถูกกิเลสครอบงำ ทำให้เป็นคนเขลาเบาปัญญา กิเลสบังคับให้สร้างกรรม กรรมก็ทำให้มีวิบากเป็นผล เมื่อถึงเวลากรรมส่งผล ก็จะได้รับความเดือดร้อนทุกข์ทรมาน ละโลกไปแล้วก็ต้องตกนรก กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าประมาทในชีวิตกัน จงเร่งสร้างบุญสร้างกุศลกันให้เต็มที่ เพราะการเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก ชีวิตมนุษย์ประเสริฐที่สุด เราทุกคนเป็นผู้โชคดี ที่รู้ว่าชีวิตเกิดมาสร้างบารมี เมื่อโอกาสแห่งการสร้างบารมีมาถึง เราก็ต้องรีบสร้างบารมีให้สุดกำลังความสามารถ ให้ทุ่มเทชีวิตจิตใจกันให้เต็มที่อย่ามัวหลงใหลสนุกสนาน เพลิดเพลินกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ แต่ให้ทำทุกวินาทีให้มีคุณค่าด้วยการสร้างบารมี ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม 

          เรื่อง นรก สวรรค์ เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวของเราเองเมื่อเราเข้าถึงพระธรรมกาย ธรรมจักขุหรือดวงตาธรรม ที่เห็นได้รอบตัว ทุกทิศทุกทางจะเกิดขึ้น ญาณทัศนะก็จะเกิดขึ้น สิ่งนี้เป็นปัจจัตตัง เข้าถึงแล้วเราก็จะรู้ได้ด้วยตัวของตัวเอง และก็เป็นสิ่งที่ พิสูจน์ได้ จะหายสงสัยได้ นี่คือเป้าหมายที่หลวงพ่ออยากให้ทุกคนได้เข้าถึงพระธรรมกาย เพราะพระธรรมกายเท่านั้นน่ะจะพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ได้ แล้วความดีงามก็จะบังเกิดขึ้นกับโลก หิริโอตัปปะก็จะบังเกิดขึ้น ความกลัวต่อบาปความละอายต่อการทำบาปทั้งที่ลับที่แจ้งเพราะกลัวผลแห่งบาปกร รมนั้นน่ะจะบังเกิดขึ้นในจิตในใจ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นมา ก็จะคุ้มครองโลกนี้ให้อยู่เย็นเป็นสุขดียิ่งกว่ากฎหมายบ้านเมืองซะอีก นี่คือความตั้งใจของหลวงพ่อนะลูกนะ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเข้าใจอย่างนี้แล้วน่ะ ให้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเครื่องกังวลใจที่ทำใจให้ไม่เป็นสุข ให้ทิ่งให้หมดจากใจ แล้วทำใจให้ใสๆ บริสุทธิ์ พอใจใสดีแล้วต่อจากนี้ไปก็ให้นึก เอาใจมาตั้งไว้ในศูนย์กลางกายนะจ๊ะ พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านการอาศัยเส้นทางสายกลางในตัวนี่แหละทำที่สุดแห่ง กองทุกข์ของท่านด้วยวิธีการทำใจให้หยุดกับนิ่งอย่างเดียวคือเอาใจมาหยุดนิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หยุดให้นิ่งตรงนี้ ใครสามารถหยุดนิ่งๆได้อยู่ที่ตรงนี้ แล้วไม่ไปคิดเรื่องอะไร ไม่ฟุ้งซ่านก็ให้เอาใจนิ่งเฉยๆอยู่ตรงนี้ที่เดียว 

             เหมือนชาวซิมบับเว ดร.ทั้ง ๓ น่ะเขาไม่ได้รู้เรื่องราวการปฏิบัติธรรมอ่ะ เขาเอาใจมานิ่งๆตรงนี้แล้วก็ด้วยวิธีการนิ่งๆคือ ทำเหมือนไม่ได้ทำ คือไม่ได้ตั้งใจ หรือว่าไม่ตั้งใจทำใจให้นิ่งๆอย่างเดียว ใจนิ่งเฉยๆ ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ ถ้าเอาใจนิ่งๆ นิ่งเฉยๆอย่างเดียวอ่ะ ไม่ช้าจะเข้าถึง สิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวตั้งแต่จะเห็นดวงธรรม จะเห็นกายภายใน จนกระทั่งเห็นพระธรรมกาย เข้าถึงพระธรรมกายเกิดขึ้นมาเอง แต่สำหรับท่านที่อดไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไม่ได้ก็ให้กำหนดบริกรรมนิมิต อย่าห่วงอย่ากังวลกับหลวงพ่อมากเกินไปอย่างมากเขาก็ปลดหลวงพ่อออกจากเจ้า อาวาส ก็ยังมีคนอื่นแทนได้เยอะแยะไป หรือ จะจำสึกก็คงไม่สึก หลวงพ่อก็ยอมตาย ก็ตายคนเดียว ก็แค่นั้นเองยังมีคนอื่นแทนกันอีกได้ตั้งเยอะแยะ ไม่ต้องห่วงนะลูกนะ ถ้าสมมุติว่าหลวงพ่อเป็นอะไรไป อย่าทิ้งการปฏิบัติธรรม ฝากวัดพระธรรมกาย ยายและวิชชาธรรมกายเอาไว้ให้อยู่คู่โลกกันต่อไป เพราะเขามุ่งมาที่หลวงพ่อน่ะเท่านั้นเอง กลัวจะเป็นศูนย์อำนาจใหม่ กลัวว่าหลวงพ่อจะเป็นศาสดาหรือเจ้าลัทธิใหม่ซึ่งนั่นเขาคิดเขาเอง หลวงพ่อไม่ได้คิด สิ่งที่หลวงพ่อคิดนะจ๊ะคิดอยากให้ทุกคนในโลก ได้เข้าถึงพระธรรมกาย เพราะว่าพระธรรมกายมีอยู่ในตัวของทุกคนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา 

           อย่างที่สวนบัวในคราวนี้ ลูกหลวงพ่อลงมาเล่าให้ฟังว่ามีชาวต่างชาติ เป็นชาวซิมบับเวอ่ะ ชาวฝรั่งเศส ชาวต่างประเทศ ขึ้นไปปฏิบัติธรรมกันเขาเข้าถึงดวงธรรมภายใน เห็นพระในตัว เห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้รู้จัก ว่าเอ้เห็นพระอยู่องค์มีไฝอยู่ใกล้ๆมุมปาก เกิดขึ้นมาในกลางดวงทั้งๆที่เขาเริ่มต้นทำใจเฉยๆเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย ใจกับกายแยกจากกัน เหมือนจดหมายกับซองจดหมายคือซองกับจดหมายแยกกันแต่ก็อยู่ด้วยกัน เขาบอกว่ากายและใจของเขาเป็นอย่างนั้น แยกออกจากกันแต่ก็อยู่ด้วยกันเหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในร่างกายแล้วก็พบดวงธรรม ภายใน พบพระภายใน พบหลวงพ่อวัดปากน้ำแต่เขาก็ไม่รู้จัก บอกว่ามีพระอยู่องค์นึงมีไฝอยู่ตรงมุมปาก ลืมตาบอกองค์นี้แหละที่อยู่ในภาพ

           เพราะฉะนั้นเนี่ย ธรรมกายมีอยู่ในตัวทุกคนในโลกหลวงพ่อก็อยากจะให้เขาเข้าถึงพระธรรมกาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกคนในโลกเพราะเข้าถึงแล้ว เขาจะมีความสุข มีปีติ มีความสุขที่แท้จริง มีเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจน การดำเนินชีวิตของเขาก็จะมุ่งไปสู่เป้าหมาย การแบ่งปันคือการให้ทานก็จะเกิดขึ้น การรักษาศีลเพื่อให้กาย วาจา ใจบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่นก็จะเกิดขึ้นการเจริญภาวนาคือการแสวงหาหนทางไปสู่ ที่สุดของชีวิตหรือจะทำชีวิตให้สมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้น นี่คือความตั้งใจของหลวงพ่อ อยากให้ทุกคนโนโลกเข้าถึงธรรมเพราะฉะนั้นไม่ว่าหลวงพ่อจะอยู่ในสถานะไหนก็ แล้วแต่ ก็จะต้องทำอย่างนี้ต่อไป กว่าจะหมดลมหายใจไม่ได้คิดเป็นใหญ่เป็นโต เป็นศูนย์กลางของอำนาจ เป็นเจ้าลัทธิตั้งลัทธิใหม่อะไรเลย ไม่เคยมีความคิดอย่างนี้ คิดกันเองว่าเองเออเองกันไปหมด เพราะฉะนั้นหลวงพ่อก็จะต้องทำอย่างนี้ต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหากถูกบีบบังคับให้เป็นไปตามสิ่งที่อยากจะให้เป็นไป ก็ฝากวัดพระธรรมกาย ยายและวิชชาธรรมกาย นะลูกนะ งานสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ สภาธรรมกายสากลและมหาวิหารพระมงคลเทพมุนีก็ทำกันต่อไป 

          การปฏิบัติธรรมในวันนี้พิเศษกว่าวันที่ผ่านๆมา เราตั้งอกตั้งใจ ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนากันมาเป็นเวลานาน หากนับเท่าอายุวัดพระธรรมกายก็ ๒๙ – ๓๐ ปี วันนี้เวลานี้ที่ว่าพิเศษเพราะไม่เพียงเคารพในพระรัตนตรัย ความเลื่อมใสศรัทธาในพระธรรมคำสอนที่ส่งผลให้หมู่คณะเรารักในการประพฤติ ปฏิบัติธรรมเท่านั้น ความรู้สึกพิเศษของพวกเราในเส้นทางการสร้างบารมี ณ ขณะนี้ เวลานี้ สิ่งที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจากวันเก่าๆที่ผ่านพ้นก็คือ ความปรารถนาที่จะแสดงออกถึงความลึกซึ้งในจิตใจที่มั่นคงในพระบวรพระพุทธ ศาสนา เวลานี้เกิดปัญหามากมาย ปัญหานั้นน่ะไม่เพียงกระทบกระเทือนหมู่คณะเราแต่ได้ลุกลามกระเทือนถึงจิตใจ ชาวพุทธส่วนใหญ่ เป็นความขัดแย้งในวงการพุทธศาสนา จนถึงขั้นมีความพยายามที่จะบีบคั้นผลักดันหมู่คณะเราให้เป็นความต่าง เป็นความแปลกแยกดั่งที่เราได้รับรู้รับทราบกันดีอยู่แล้ว ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ด้วยกาย วาจา ใจที่หลวงพ่อและหมู่คณะ เพียรพยายามรักษาให้มั่นอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญาตลอดมา หลวงพ่อก็ขอยืนยันไว้ ณ ที่นี้ ว่าพวกเราทุกคน รักพระพุทธศาสนา มั่นคงในพระรัตนตรัย ประการสำคัญน่ะ เราทุกคนจงรักภักดีกับพระมหากษัตริย์ รักชาติและเคารพบูชาในองค์สมเด็จพระสังฆราชเป็นที่ยิ่ง 

          จะด้วยปมปัญหาใดๆแม้วินาทีนี้หลวงพ่อก็ขอยืนยัน มั่นคงในปณิธาน บุญกุศลใดๆ ที่เกิดจากกาย วาจา ใจ ที่เราได้เพียรหล่อหลอมให้สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างตั้งใจในวันนี้ หลวงพ่อและหมู่คณะพุทธศาสนิกชนตลอดจนเพื่อนสหธรรมิกอีกมากมาย ไม่ว่าจะอยู่ที่นี้ หรือที่ไหนของโลกที่มีเส้นทางธรรมอันมั่นคงรวมกันนี้พวกเราทั้งหมดขอนอบน้อม ถวายความดีและบุญกุศลในวันนี้ถวายเป็นพระพรชัยแด่องค์สมเด็จพระสังฆราช ให้ทรงหายจากอาการประชวรหายจากเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ขอพระองค์ประสบแต่ศิริสวัสดิ์ พิพัฒน์พรชัย ให้ทรงมีพระพลานมัยที่สมบูรณ์เพื่อพิทักษ์รักษาความถูกต้อง ชอบธรรมแก่ผองเรา ชาวพุทธทุกหมู่เหล่าให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง สถิตย์สถาพร เป็นปึกแผ่นโดยแท้จริงตลอดไป 

            แล้วทำใจให้ใสๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องหลวงพ่อล่ะแต่สิ่งที่เราควรจะเป็นห่วงและปกป้องก็คือ องค์สมเด็จพระสังฆราชเราควรจะปกป้องท่าน อย่าให้ใครมาว่าร้าย จ้วงจาบท่าน ออกทางสื่อต่างๆอะไรอย่างนั้นหรือในทางไหนก็แล้วแต่ ช่วยกันแนะนำ ไปตักเตือนเขาว่าอย่าทำอย่างนั้นนอกจากเป็นบาปเป็นอกุศลแล้วยังไม่เหมาะไม่ ควร ต้องรู้ว่าพระองค์ท่านอุทิศชีวิตของท่านเพื่องานพระศาสนามาตลอด ท่านลำบากมากจนกระทั่งพระวรกายท่านเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะฉะนั้นปกป้องท่านดีกว่า อย่าใครมาจ้วงมาจวบ จะเป็นสื่อใดบุคคลใดก็แล้วแต่ ไปตักไปเตือนเขาว่าอย่าไปทำอย่างนั้นไม่ดี และก็ปกป้องมหาเถรสมาคมซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของพระพุทธศาสนาในประเทศของเรา พระมหาเถระเหล่านั้นท่านก็มีอายุพรรษามากแล้ว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาน่ะ ตั้งแต่เป็นสามเณรเรื่อยมาทำงานเพื่อพระศาสนา ลำบากมาก เพื่อที่จะให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ เป็นประโยชน์สุขต่อมวลมนุษยชาติเพราะฉะนั้นใครไปว่าร้ายไปจ้วงจาบท่านก็ช่วย กันปกป้อง ปกป้องท่านเอาไว้ให้ดี สื่อไหนน่ะ ไปโจมตีกันมาน่ะ ก็ไปตักไปเตือนเขาว่าอย่าไปทำอย่างนั้นและช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาให้ดีที เดียว การโจมตีว่าร้ายน่ะโดยเริ่มต้นที่หลวงพ่อก่อน ตั้งแต่วันอัศจรรย์ตะวันแก้ว ๒๔ ตุลาคมที่ผ่านมาเรื่อยมาเลยนั่นน่ะ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแต่ก็โจมตีบิดเบือนกันไป 

     ว่าร้ายวัดพระธรรมกายยังไม่มีปัญหาแต่ไปกระทบสังฆมณฑล  ทำให้ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนคลอนแคลน มีหลายวัดได้มาเล่าให้หลวงพ่อฟังเดี๋ยวนี้พระเณรจะอดตายกันแล้ว ญาติโยมไม่ค่อยจะใส่บาตร ตักบาตรกันเพราะว่าสับสนกับสื่อที่ออกกันไปอย่างนี้น่ะ เพราะฉะนั้นใครไปตักเตือนสื่อได้ก็ไปตักเตือนกัน จะด้วยวิธีการใดก็ไปบอกเขาว่าอย่าไปทำเป็นบาปกรรมและเป็นสิ่งที่ไม่ดี พลอยทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย หลวงพ่อธัมมชโยเดือนร้อนองค์เดียวก็พอแล้ว อย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน 

          เพราะฉะนั้นปกป้องพระพุทธศาสนา แล้วก็วิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นวิชชาหรือเป็นวิธีการที่จะให้เข้าถึงธรรมกายในตัวนี่ล่ะ เป็นเป้าหลักเลยทีเดียวล่ะ เป้าหมายที่จะสอนให้ทุกคนเข้าถึงวิชชาธรรมกายถึงพระธรรมกายในตัว เพราะถ้าเข้าถึงได้แล้วล่ะก็ จะมีความสุขมาก มีความเบิกบานมีกำลังใจในการสร้างความดีเกิดขึ้นมากมายก่ายกองทีเดียว จะเป็นคนดีในสังคมคนดีที่โลกต้องการ จะทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข ความตั้งใจหลวงพ่อมีเพียงประการเดียวคือมุ่งที่จะแนะนำสั่งสอนให้ชาวโลกได้ เข้าถึงธรรมกายถ้าเขาเข้าถึงแล้วเราก็มีความสุข มีปีติ ตัวเขาก็มีความสุข เราก็มีความสุข มีเพียงแค่นี้เอง ที่สร้างอะไรขึ้นมาเนี่ยใหญ่โตก็เพื่อรองรับมหาชนที่เขามากันมากมาย มาศึกษาวิชชาธรรมกาย มาปฏิบัติธรรมไม่ได้มาทำความชั่วกันเลยน่ะ ทำเพื่อการนี้เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อ อยากเด่นอยากดังอะไรอยากเป็นใหญ่เป็นโต เป็นศูนย์อำนาจ ไม่เคยคิดเรื่องกะโหลกกะลาเหล่านี้ไม่ได้สนใจเลย ถ้าสนใจสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มาบวช บวชมาก็มุ่งอย่างนี้อย่างเดียว เพราะฉะนั้นน่ะ ไปบอกกัน ใครเข้าใจไม่ถูกต้องก็ให้เขาเข้าใจให้มันถูกต้อง 

       ปัจจุบันนี้หลวงพ่อไม่ได้อดทนอะไรเลยน่ะ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไร เพราะเข้าใจน่ะในสิ่งที่เขาต้องการให้มันเป็นไปยังไงน่ะ เราเข้าใจเขาเสียแล้วเนี่ย ใจเราก็สบาย มีปีติ เบิกบานในคุณงามความดีที่ทำผ่านมา และที่กำลังจะทำกันต่อไป ไม่ว่าจะบีบบังคับหลวงพ่อไปอยู่ตรงไหนหลวงพ่อก็ยังต้องทำความดีต่อไป เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่จะต้องช่วยตัวเองให้พ้นจากบ่าวจากทาสของพญามาร คู่ต่อสู้ของหลวงพ่อก็คือเวลากับพญามารเท่านั้นแหละ เพราะหลวงพ่อต้องแข่งกับเวลาน่ะ ต้องเอาชนะพญามารในตัวคือกิเลสในใจน่ะ มันยังมีอยู่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ต่อสู้กันอยู่ทุกวันเลยไม่ได้คิดไปสู้ใคร เพราะฉะนั้นจะไปว่าร้ายใคร หลวงพ่อก็ทำไม่เป็น ใจมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น จะไปจ้วงจาบใคร จะไปว่าร้ายใคร ทำไม่เป็น พระพุทธเจ้าท่านก็สอนให้ "อนูปวาโท" ไม่ว่าร้ายใครก็ทำกันมาตลอด เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงหลวงพ่อ หลวงพ่อถือว่าวันนี้ได้ฝากฝังลูกทุกคนแล้ว ต่อจากนี้ไป ทำใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใสเอาบุญใหญ่กันดีกว่า ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา มาทำตรงนี้กัน นะลูกนะ ให้เบิกบานให้แช่มชื่น จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะ รองรับบุญกุศล และพระรัตนตรัย จะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวของเรา 

         พระรัตนตรัย เนี่ยเป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้ใดได้เข้าถึงพระรัตนตรัย ก็จะได้ชื่อว่าเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ดำเนินตามรอยบาทพระบรมศาสดา ทำให้เป็นผู้ที่มีชีวิตปลอดภัย ทั้งภัยในอบายภูมิและภัยในสังสารวัฏ และจะประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง เพราะมีใจหนักแน่นมั่นคงในพระรัตนตรัย มีความเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ซึ่งเป็นทางมาแห่งมหากุศลอย่างที่จะนับจะประมาณไม่ได้ 

          ดังนั้นผู้ที่มีใจผูกพันในพระรัตนตรัย ตรึกนึกถึงพระรัตนตรัยอยู่ตลอดเวลา และหมั่นสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยย่อมจะได้รับอานิสงส์มาก จนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสว่า“ผู้ใดมีความศรัทธา ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า มีศีลอันงามที่พระอริยเจ้าสรรเสริญ มีความเลื่อมใสในพระสงฆ์และมีความเห็นตรงต่อหนทางพระนิพพาน ผู้นั้น เป็นผู้ที่มีชีวิตไม่เปล่าประโยชน์” ผู้ใดเข้าถึงพระรัตนตรัยย่อมมีใจตั้งมั่น มีศรัทธามั่นคง ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน เป็นผู้เชื่อในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่ามีพระคุณอย่างไม่มีประมาณและเป็นที่พึ่งอันสูงสุดของตนเองและของมวล มนุษยชาติ ผู้มีความเลื่อมใสเช่นนี้ จะมีชีวิตไม่ว่างเปล่าจากความดีเป็นชีวิตที่มีประโยชน์ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ถ้าหากเราได้เข้าถึงพระธรรมกายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมกาย และได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย ทำให้คล่องให้ชำนาญจนกระทั่งภพทั้งหลายอยู่ในครองแห่งธรรมจักษุ คืออยู่ในสายตาของธรรมกาย เมื่อนั้นแหละเราก็จะนำบุญที่เราได้ทำ และเราได้มองเห็นว่าบุญอยู่ที่ตรงไหนไปให้แด่หมู่ญาติเหล่านั้นน่ะ 

         เหมือนครูบาอาจารย์ของเราน่ะหรือผู้รู้ในกาลก่อนได้ทำมา ยกตัวอย่าง คุณยายอาจารย์ของเราสมัยที่ท่านได้เข้าวัดมาใหม่ๆ ตอนตามหาพ่อที่ละโลกไปแล้ว ท่านได้อุทิศตนยอมตนไปเป็นคนรับใช้เขาเพื่อให้ได้เข้าใกล้ชิดอุปฐากของวัด ปากน้ำ ได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย จนในที่สุดได้บรรลุวิชชาธรรมกาย แล้วก็ไปพบพ่อที่ละโลกไปแล้ว ไปตกทุกข์ได้ยากอยู่ในทุคติไปอยู่ในอบาย ในนรก ท่านพูดด้วยความปีติ เบิกบานไม่อายใครเลยว่า“พ่อของท่านตายไปแล้วไปอยู่ในนรก” พูดโดยไม่อายใครเลย “ตอนเป็นมนุษย์อยู่ก็ได้ดื่มเหล้า ตอนใกล้จะละโลก ภาพนั้นมันมาปรากฏ ใจมันขุ่นมัวเศร้าหมอง พอเศร้าหมองเข้า ก็พอเหมาะพอดีกับภพของอบาย มันก็ดึงดูดเข้าหากันเหมือนเครื่องส่งเครื่องรับวิทยุอย่างนั้นแหละ มันดูดเข้าหากันน่ะ แล้วก็ไปตกนรกไปมีความทุกข์อยู่ในทุคติ ทุกข์ทรมานมากมายทีเดียว ท่านบอกว่า ท่านเห็นพ่อของท่านน่ะไม่ได้นุ่งเสื้อผ้าเลย อยู่มีความทุกข์ทรมาน แล้วก็ดื่มน้ำทองแดงที่เราเคยได้ยินได้ฟังกัน มันเป็นโลหะทองแดงน่ะ ที่เขาหลอมเหลวให้ร้อน แล้วก็กรอกใส่ จริงๆในสมัยโบราณเขาเชื่อกันเรื่องนี้น่ะ ต่อมาก็พูดกันล้อเล่นกันเรื่อยมาจากล้อเล่น กลายเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเชื่อถือ หาว่างมงายกันไปแต่จริงๆแล้วมันมีจริงๆน่ะ ผู้ที่เขารู้เขาเห็นน่ะมันมีอยู่ ได้เข้าถึง คุณยายท่านก็ไปช่วยให้พ่อพ้นทุกข์จากนรกด้วยธรรมกายของท่านโดยนำ บุญที่ได้เข้าถึงธรรมกายน่ะไปให้ ช่วยจนกระทั่งพ้นทุกข์นั้นขึ้นมาอยู่ในภพของสุคติภูมิ แล้วก็นำบุญไปให้ ใหม่ๆก็เห็นวิมานของพ่อน่ะ ซึ่งในสมัยเป็นมนุษย์พ่อก็มีโอกาสได้สร้างบุญด้วยวัดก็เข้าเหล้าก็กินอย่าง นั้นแหละ แต่บาปให้ผลก่อน แต่บุญก็ทำไม่มากทำแบบทั่วๆไปอย่างนั้นแหละ ทำแบบเสียไม่ได้ เพราะฉะนั้นวิมานก็ไม่ใหญ่โตโอฬารไม่วิจิตรพิสดาร แล้วในที่สุดท่านก็ค่อยๆสั่งสมบุญ เอาบุญนี้ไปให้พ่อท่านทุกวันทุกคืน จนกระทั่งมีความสุขยิ่งๆขึ้นไป 

          สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีจริงและพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางพุทธศานสน์ ถ้ารู้วิธีการแล้วล่ะก็สามารถทำกันได้ทุกคนยกเว้นคนเป็นใบ้เป็นบ้าน่ะ ประสาท ปัญญาอ่อน ระบบการรับรู้มันสูญเสียนั่นแหละมันทำไม่ได้ นอกนั้นสามารถทำได้ เพราะธรรมกายอยู่ในตัวของเราทุกคนอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกๆคน ตัวเราก็มี ของคนอื่นก็มี ทุกชาติ ทุกภาษาขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์มีหมด ที่อยู่ในสภาธรรมกายสากลนี่ก็มี มีทั้งหมดแหละ นอกสภานี้ก็มี ในประเทศไทยก็มี ต่างประเทศก็มี ทั่วโลกมีหมดทุกคนแหละ มีทั้งนั้นแต่ไม่รู้ว่ามี และไม่รู้วิธีที่จะเข้าถึง เพราะฉะนั้น ถ้าใครได้เข้าถึงตรงนี้ได้มาศึกษาวิชชาธรรมกายน่ะ ก็ไปมาหาสู่กันได้ หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านใช้คำว่าไปจำมือถือแขนสัตว์นรกก็ได้ พูดจาโต้ตอบกันก็ได้ ไปช่วยก็ได้ ช่วยหมู่ญาติที่ตกนรกไปแล้วช่วยได้ ไปอยู่บนสวรรค์ก็ไปช่วยได้จับมือถือแขนชาวสวรรค์ที่เป็นญาติของเราได้ทั้ง นั้นแหละ นำบุญไปให้ได้แล้วก็มีผู้ที่เป็นพยาน ในการเข้าถึงธรรมของท่านน่ะ มากมายก่ายกองทีเดียวไม่ใช่เป็นสิบ ไม่ใช่เป็นร้อย ไม่ใช่เป็นพัน ไม่ใช่เป็นหมื่นเป็นแสนแต่มันมากกว่านั้น อย่างเช่นเรื่องนรก เรื่องสวรรค์ เรื่องนิพพาน เรื่องกฎแห่งกรรมชาตินี้ชาติไหนอะไรต่างๆ สิ่งนี้มีอยู่ในพระไตรปิฎก เรากำลังจะสิ่งนั้นให้มันมาปรากฏให้มันเป็นจริงในยุคของเราตรงนี้แหละ นั้นคือความตั้งใจ 

           เพราะฉะนั้นถ้าหากมนุษย์ได้เข้าถึงธรรมภายใน ถึงพระธรรมกายก็จะมีความสุขที่แท้จริง มีความบริสุทธิ์ของดวงจิตมีความรู้แจ้งในชีวิต รู้ว่าเกิดมาทำไมอะไรคือเป้าหมายของชีวิต จะรู้จักแบ่งปันกัน ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในโลกนี้ ก็จะได้มาแบ่งปันกันฉันท์ญาติฉันท์พี่น้องกัน การทะเลาะเบาะแว้งมันก็จะหมดไป โลกไม่จำเป็นจะต้องมีทหารไม่จำเป็นต้องมีตำรวจ ถ้าหากว่ามนุษย์ทุกคนในโลกมีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงธรรม ถ้าหากเราจะคิดว่า มันเป็นสิ่งที่อยู่ในอุดมคติหรือเหลือวิสัยที่จะเป็นจริงน่ะ หลวงพ่อว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าสิ่งนี้มันมีอยู่ในตัวของทุกๆคนในโลก นรกสวรรค์อยู่ที่ศูนย์กลางกายตรงนั้นแหละ เป้าหมายชีวิตหรืออะไรก็อยู่ที่ศูนย์กลางกาย ให้ลงมือทำจริงให้ถูกวิธีและต่อเนื่อง เราก็จะได้พบของจริงของจัง ชีวิตนี้มันจะได้มีความหมายดีกว่าเดิม นี่คือความตั้งใจจริงของหลวงพ่อ 

        เพราะฉะนั้นใครที่เขาเข้าใจไม่ถูกต้องมีโอกาสก็ไปอธิบายให้เขาฟัง ช่วยกันอธิบายกันไปจากปากคนหนึ่งก็ไปถึงอีกคนหนึ่งเพราะตอนนี้ลูกก็เป็นผู้นำบุญ เป็นยอดกัลยาณมิตรกันแล้ว ให้ทำหน้าที่ตรงนี้แต่ก่อนอื่นเราต้องปฏิบัติธรรมให้มันมีประสบการณ์ภายใน ให้มันได้ซะก่อน พอได้แล้วถ้อยคำของเราเวลาจะพูดไปมันก็มีพลัง เพราะเราพูดด้วยความมั่นใจในสิ่งที่เราได้เข้าถึงจริงจัง หลวงพ่อน่ะพูดอย่างนี้มาตั้งแต่ก่อนบวช จนกระทั่งบวชมาได้ ๓๐ พรรษาจะขึ้นพรรษาที่ ๓๑ น่ะ บวชเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหา ปี ‘๑๒ จะพรรษาที่ ๓๑ แต่ว่าได้พูดเรื่องนี้มาก่อนเพราะว่าปฏิบัติมาก่อนที่จะมาบวช หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่านก็สอนน่ะ แล้วท่านก็พิมพ์เป็นตำรับตำราก็มีเยอะแยะไปหมดเลย หลวงพ่อก็ชวนเขามานั่งแล้วก็สอนตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็สอนกันมา ส่วนการรู้เห็นก็เป็นปัจจัตตัง ถ้าหลวงพ่อเข้าถึงหลวงพ่อก็เห็นของหลวงพ่อ แล้วก็ชวนกันมาอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนบวชจนกระทั่งปัจจุบันนี้น่ะ 

         คนที่จะบอกได้ว่าอวดนี่หมายถึง เป็นผู้ที่บรรลุแล้วเป็นพระพุทธเจ้าหรือเป็นอรหันต์ถามว่าท่านนั่งแล้วเป็น อย่างนี้หรือเปล่าเป็นอย่างโน้นหรือเปล่า เป็นอย่างนั้นไหม หรือว่าเอาไปอวดอ้างอะไรไหม ต่างๆเหล่านั้นน่ะแต่คนไม่รู้เนี่ย ไม่ได้ลงมือปฏิบัติ แล้วก็พูดเรื่อยเปื่อย มีอารมณ์สนุกขยันจะมาล้อหลวงพ่อเล่นอย่างงั้นน่ะ ถ้าจะให้หายสงสัยว่าจะอวดหรือไม่อวด ลงมือปฏิบัติซะมันมีจริงไหมล่ะ ว่าดวงธรรมก็ดี แสงสว่างภายในก็ดี กายภายใน กายมนุษย์ กายทิพย์พรหม อรูปพรหม กายธรรมโคตรภู โสดา สกิทาคา อนาคา อรหัตต์ กายธรรมในกายธรรม มีจริงหรือเปล่านิพพานมีจริงไหม ลงมือปฏิบัติแค่นั้นมันก็จะจบเรื่องกันไป ไม่ต้องมากล่าวอะไรต่ออะไร มาล้อหลวงพ่อ เล่นหลวงพ่ออย่างนั้น อย่าทำเป็นเล่นๆกันไปมันเป็นเรื่องของชีวิตทีเดียว ถ้าเราปฏิบัติแล้วได้เข้าถึง เราก็มีความสุขของเราเป็นปัจจัตตัง อย่าให้วันเวลามันผ่านไปเลย ลงมือปฏิบัติธรรม พูดกันไปพูดกันมามันก็ไม่มีประโยชน์ 

         เขาตั้งให้หลวงพ่อตั้ง ๓ อย่าง อวดอุตริมั่ง เกี่ยวกับเรื่องที่ดินมั่ง เรื่องที่ดินนี่ ถ้าถามว่าอยากได้ไหมที่น่ะ อยากนะเอามาทำไม เอามาซื้อมาขาย เอาไปจำนองจำนำหรือไปค้ำประกันใครหรือเปล่า เปล่าเลย ที่อยากได้ก็เพราะว่าจะให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของหมู่บ้าน เพราะบางคนเขาไม่สะดวกมาวัด จะมาบ่อยๆก็ลำบากนานๆมาทีล่ะได้ ปีละสัก ๓ ครั้ง มาฆะ วิสาขะ กฐินมาได้ แต่จะมาบ่อยๆก็ลำบากก็จะได้อาศัยที่นั้นน่ะ ปฏิบัติธรรม อยากได้ทุกหมู่บ้านถ้าทุกหมู่บ้านมีที่ปฏิบัติธรรม แล้วเขามาปฏิบัติธรรม แล้วเขาเข้าถึงธรรมถึงพระธรรมกาย อะไรมันจะเกิดขึ้น โจรรึ ขโมยรึ หรือว่าคนดีเกิดขึ้นในสังคมอันนี้เป็นสิ่งที่น่าคิด นั่นคือความอยากได้นะ ทีนี้ มีคนเอาที่น่ะ มาถวายหลวงพ่อแล้วเขาก็บอกวัตถุประสงค์ บอกเสร็จหลวงพ่อก็ทำตามที่เขาบอก เขาอยากให้เป็นอย่างไรเราก็ตามใจเขา ได้รับมาแล้วน่ะ ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่เขาไปดูแลหมายความว่าผู้รับผิดชอบของหมู่คณะ เขามีคณะกรรมการเขาคอยดูแลแล้วหลวงพ่อก็หมดหน้าที่กันไป ไม่ได้ติดอกติดใจในที่เหล่านั้นเลย ก็คิดว่าสักวันหนึ่งเมื่อเรามีทีมและมีทุน เราก็จะนำที่เหล่านั้นน่ะ มาทำสิ่ง ที่ตรงนั้นให้มันเกิดประโยชน์สำหรับไว้เผยแผ่ธรรมะ ก็แค่นั้นเอง ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องซับซ้อนอะไร 

          แต่ต่อมาเขารู้สึกกังวลกับการที่หลวงพ่อได้รับที่เหล่านี้น่ะอยากได้ให้เอาเข้าวัด เข้าวัดก็ดี หลวงพ่อก็ไม่ได้ขัดข้อง ก็เซ็นต์ให้ตอนนี้ก็เซ็นต์ไปแล้ว แต่เซ็นต์ไปแล้วตอนนี้ปัญหามันไม่หมด จะจับหลวงพ่อน่ะจะปลดออกจากเจ้าอาวาส ไม่ได้ปลดองค์เดียว ปลดทั้งทีมเลยหมู่คณะที่ร่วมสร้างวัดกันมาตั้ง ๒๙ ปี จะปลดออกหมดเลย แล้วยังไม่พอยังจะจับสึกกันอีก สึกยังไม่พอ เอาติดคุกติดตารางอีก ตอนนี้หลวงพ่อไปหาหนังสือเขาเขียนคำว่าคุกนะเอามาศึกษาดูเผื่อว่าได้ไปใช้ บริการ เราก็จะได้ทำตัวได้ถูกต้อง ก็เอามาศึกษากันเอาไว้ดู แล้วมันยังไม่พอนะสิ่งที่ออกกฎมา ไม่ใช่ใช้บังคับหลวงพ่อองค์เดียว มันใช้บังคับสังฆมลฑล ทุกวัดก็จะพลอยเดือดร้อนใครบวชเป็นพระระหว่างเป็นพระ มีสมบัติอย่างนี้เข้าล่ะก็ ต้องโอนหมดโดยลำพังเงื่อนไขหลวงพ่อไม่มีปัญหา โอนกันไปเลย อยากได้ก็เอาไปไม่ติดใจ 

        แต่บางวัดไม่อย่างนั้น หลายๆท่านมาเล่าให้หลวงพ่อฟังนะ ท่านบอกว่าบวชได้เป็นพระสัก ๑๐ พรรษา โยมแม่ก็เข้ามาหาบอกว่า จะเอาที่น่ะมาถวายแต่ไม่ให้วัดนะ ให้ท่าน ถามว่าโยมแม่ ทำไมไม่เอามาถวายวัดล่ะ ไม่เอาถวายท่านนั่นแหละ เมื่อบวชต่อมาท่านก็ได้ทำงานพระศาสนา ก็ใช่ที่ผืนนี้แหละเอาเข้าไปจำนองมั่ง แล้วเอาเงินอันนั้นน่ะ มาจ่ายเป็นเงินเดือนของครูบาอาจารย์สำหรับมาสั่งสอนพระเณร พอญาติโยมเอาเงินมาถวายก็ไปถ่ายถอนกลับมา เอาเข้าเอาออกอยู่อย่างนี้ตลอด เวลา เพราะที่วัดท่านน่ะเปิดเป็นบาลีปริยัติสามัญน่ะมีสอนทางโลกด้วย ทางธรรมด้วย ทางรัฐบาลก็กว่าจะให้งบมาก็นานๆทีนึง ทั้งค่าครูค่าอาหาร ค่าอะไรต่างๆท่านต้องหากันเองทั้งนั้นแหละ มันลำบาก ก็ได้ที่ผืนนั้นแหละได้ทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนา เป็นอย่างนี้จำนวนมากหลายวัด จะบังคับหลวงพ่อน่ะให้โอนให้ แล้วไปกระทบสังฆมณฑล อันนี้เป็นสิ่งที่หลวงพ่อฟังดูแล้วเนี่ย ใจมันสลดหดหู่ ทีนี้ถ้า ไม่บังคับสังฆมณฑลจะมาขยันใช้บังคับหลวงพ่อเพราะรักหลวงพ่อมาก เอากับหลวงพ่อคนเดียวแหละ มันก็แปลก กฎหมายออกมาใช้บังคับกับคนเดียวมันก็ไปแย้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และยังไปแย้งกฎหมายแพ่ง เขาบอกว่าพระมีที่ดินส่วนตัวได้มันแย้งกันไปแย้งกันมา ถ้าจะใช้บังคับหลวงพ่อมันก็จะต้องไปแก้กฎหมายแพ่งแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างนั้นจึงจะได้ เขาว่ากันอย่างนั้นนะ 

            และทีนี้นี่มันน่าแปลก ขณะที่หลวงพ่อมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่เนี่ยยังมีคนจะเอาที่มาถวายหลวงพ่อ ถึง ๓ ราย รายหนึ่งจะถวายเป็น ๑๐ ไร่ อีกรายหนึ่ง ๑๐๐ กว่าไร่ อีกรายหนี่ง ๓๐๐ กว่าไร่ หลวงพ่อบอก ยังไม่เอาหรอกเพราะแค่นี้ก็ปวดหัวตัวร้อนปวดท้องปวดไส้กันไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะทำกันอย่างไรเก็บเอาไว้ก่อนเถอะอย่าเพิ่งเลย แต่หลวงพ่อเนี่ยอยากได้มันทั่วประเทศไปเลย ถ้าหากว่าพอจะมีบุญอยู่บ้าง ยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ก็จะตั้งใจทำต่อไปแหละ ใครเอาที่มาถวาย ถ้าเขาให้โอกาสนะเอามันทุกหมู่บ้านไปเลย ๕-๖ หมื่นหมู่บ้านนี่แหละ ตั้งเป็นที่ปฏิบัติธรรมชวนคนมานั่งปฏิบัติธรรม เรามีที่ เรามีทุน เรามีทีม เราก็ทำกันไปธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะได้ขยาย สันติสุขจะได้เกิดขึ้นนี่เกี่ยวกับเรื่องที่นะ 

          เรื่องที่ ๓ เขาบอกว่าหลวงพ่อนี่นะ กำลังแบ่งแยกสงฆ์ทำให้สงฆ์แตกแยก เราก็มาพิจารณาดู มีแต่จะรวมสงฆ์ ตั้งแต่บวชองค์เดียวสร้างวัดพระธรรมกายนั่งอยู่ที่ใต้เต้นท์ มีกองฟาง แล้วเขาก็เอาอาสนะให้หลวงพ่อนั่งแต่เดิมบวชอยู่องค์เดียว วันที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒ คุณยายท่านก็บวชให้ แล้วต่อมาก็มีหลวงพ่อทัตตะบวชองค์นั้นองค์นี้บวช ค่อยๆรวมสงฆ์เข้ามาเรื่อยๆนะ จากองค์ ๑ เป็น ๒ องค์ เป็น ๕ องค์๑๐ องค์ รวมกันเรื่อยมา เดี๋ยวนี้เนี่ยรวมสงฆ์ได้มากที่สุดในประเทศนะ เฉพาะพระนี่มากที่สุดในประเทศเณรน่ะยังน้อยกว่าเขา ที่อื่นเขารวมเณรได้เป็น ๑,๐๐๐ องค์ หลวงพ่อรวมได้แค่เป็น๑๐๐ แต่ก็รวมสงฆ์น่ะนะ ไม่ได้ทำให้สงฆ์แตกออกไปเลย รวมจนกระทั่งเดี๋ยวนี้เนี่ยเป็น๑๐,๐๐๐ ดูเหมือนว่าวันที่ ๒๒ เมษายนที่ผ่านมา วันคุ้มครองโลก จะรวมได้ร่วม ๑๐๐,๐๐๐มั้ง หลวงพ่อว่าลูกทุกคนคงพอจะจำกันได้ว่าหลวงพ่อรวมหรือว่าหลวงพ่อทำลายให้สงฆ์ น่ะแตกออกจากกันน่ะ นี่รวมกันมาได้ ๑๐๐,๐๐๐ องค์แล้วนะ แล้วก็ยังคิดต่อไปเนี่ยถ้าหากยังอยู่นะเขายังให้โอกาสหลวงพ่อ เป็นเจ้าอาวาส แล้วก็ยังไม่อุ้มไปไหนเนี่ยนะ ก็จะทำกันต่อไป 

       เรื่องอุ้มเนี่ย หลวงพ่อก็พยายามลดน้ำหนัก เพื่อให้เค้าอุ้มได้สะดวกจะอุ้มไปไหนก็เอากันตามสะดวก บางคนเขาบอกต้องมีบอดี้ก่งดี้การ์ดหลวงพ่อบอกไม่เอาอ่ะ ถ้าอุ้มก็อุ้มกันไป เขารักเราเขาเอ็นดูเรา เพราะการจะอุ้มนั้นมันต้องเอ็นดูกันถ้าไม่เอ็นดูก็ไม่อุ้มกันล่ะ อย่างอุ้มลูกอุ้มหลานอะไรต่ออะไรกันไปแสดงว่ารักมากจึงอุ้ม ก็จะเตรียมตัวกันอย่างดี แต่ถ้าหากว่ายังไม่โดนอุ้มนะแล้วยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เขาไม่จับสึก แต่ยังไงสึกน่ะ คงไม่ยอมให้สึกอ่ะ ยอมตาย (สาธุชนจำนวนมากเปล่งสาธุการ)จะตายในผ้าเหลือง เพราะฉะนั้นนะ ถ้ายังอยู่นะลูกนะ จะรวมสงฆ์ให้ได้ทั้งภายในและต่างประเทศ (สาธุชนจำนวนมากเปล่งสาธุการ) เอา มาปฏิบัติธรรมลูกๆได้มาถวายทานสร้างมหาทานบารมีให้สนุกสนานกันใหญ่ทีเดียว ไม่ช้าเราก็จะกลับไปอยู่ที่เดิมกันแล้วเพราะฉะนั้นสั่งสมบุญกันให้มันเต็ม ที่ ถ้ายังอยู่นะลูกนะแต่ถ้าไม่อยู่ก็ทำกันต่อไป 

          แต่ว่าขอยืนยันว่าไม่เคยคิด ไม่เคยพูด ไม่เคยทำที่จะแบ่งแยกสงฆ์แบ่งแยกนิกายก็ไม่เคย ยังอยู่ในมหานิกายอย่างนี้แหละ แล้วยังคิดฟุ้งซ่านไปนะอยากจะรวมให้เป็นนิกายเดียวกันด้วยซ้ำไป ทั้งธรรมยุตทั้งมหานิกายอ่ะเอามารวมแล้วเรียกนิกายอะไรก็ไม่รู้อ่ะ แล้วแต่ผู้ใหญ่ท่านจะเรียกเอาอยากให้เป็นอย่างนั้นด้วย ไม่อยากจะแยกอยากจะรวม นี่คือความในใจของหลวงพ่อ แล้วก็อยากจะรวมกันหมดทั่วโลกมันไปเลยให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วก็มองพระพุทธศาสนาไปอีก ๑,๐๐๐ ปีข้างหน้าอย่ามองดูเฉพาะหน้านี้เลย เมื่อปู่ย่าตายายรักษาพระพุทธศาสนาน่ะตกทอดมาถึงเราอย่างนี้น่ะ เราก็จะต้องรักษาต่อไป สืบทอดต่อไป อีกเป็น ๑,๐๐๐ปีข้างหน้า ทีนี้เราก็ต้องคิดว่า อีก ๑,๐๐๐ ปีข้างหน้าเนี่ยพระพุทธศาสนาจะเป็นอย่างไรเนี่ย จะให้คงอยู่ ให้เป็นเหมือนสมัยพุทธกาลและเป็นประโยชน์สุข เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติน่ะ เราควรจะทำอย่างไรต้องเริ่มคิดกันแล้ว และก็ต้องเตรียมการตั้งแต่นี้ไปแล้ว คิดอย่างเดียวไม่เตรียมการไม่ฝึกหมู่คณะไม่ฝึกพระฝึกเณรฝึกพุทธบริษัททั้ง ๔ ให้ทำงานอย่างมีระบบมีระเบียบมีการจัดการที่ดี ถ้าไม่ทำอย่างนี้น่ะมันไปไม่ถึงหรอก หรือไปถึงอย่างแกนๆ ดีไม่ดีมันจะเหมือนอย่างในอินเดียซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดพระพุทธศาสนาแต่ พระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ในนั้นแล้วน่ะ ไปอยู่อื่นเหลือแต่ต้นโพธิ์ และสังเวชนียสถาน๔ แห่ง ซึ่งไปแล้วไปเห็นก็ให้เกิดความสลดสังเวช ๔ แห่งของพระพุทธเจ้า อีกแห่งนึงที่น่าสลดสังเวชคือพระพุทธศาสนาหมดจากอินเดีย หมดไปแล้ว ดังนั้นเนี่ย เราควรจะมองกันไปตรงโน้นไม่ใช้มองแค่ตรงนี้ 

           ทีนี้การที่หลวงพ่อทำอย่างนี้มา ๓๐ ปี กลายเป็นความผิดกลายเป็นความหวาดระแวงว่า กลัวจะเป็นศูนย์อำนาจใหม่ ตั้งลัทธิใหม่เป็นศาสดาองค์ใหม่ แล้วก็ความระแวงอย่างนี้ทำให้การสร้างบารมีไม่ได้ราบรื่นตลอดระยะเวลา ๓๐ ปีที่ผ่านมา สร้างวัดมา ๒๙ ปี แต่บวชมา๓๐ ปีผ่านมาไม่ได้ราบรื่นเลย บวชได้ไม่นานก็สร้างวัดสร้างได้ไม่นานก็ถูกเพ่งเล็งอย่างนี้ ตั้งแต่อบรมธรรมทายาทที่วัดพระธรรมกายมันใกล้ๆกับ ๑๔ ตุลาน่ะ ตอนนั้นนิสิตนักศึกษาเขาก็สนใจการปฏิบัติธรรมผู้สนใจปฏิบัติธรรมก็มี สนใจการบ้านการเมืองก็มี แบ่งกันไปอย่างนั่นน่ะแต่คนก็ดูเหมารวมๆกันไป ถูกเพ่งเล็งตั้งแต่ตอนนั้น เรื่อยมาเลย 

           แล้วก็ทางบ้านเมืองที่เขาดูแลเกี่ยวกับความมั่นคงน่ะ เขาส่งคนมาปนเป็นอยู่ในนี้ ๒๐ กว่าปีแล้วจนกระทั่งบัดนี้น่ะ ปนกันอยู่ทุกวันเลย เป็นพระก็มีเป็นอุบาสกอุบาสิกาก็มี สาธุชนก็มี ปนอยู่ในวัดนี่แหละ แต่หลวงพ่อไม่สนใจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปน่ะ ถ้าเข้าวัดแล้วต้องมีกฎระเบียบอันเดียวกันจะเป็นตัวแทนของหน่วยงานไหนก็แล้ว แต่ที่ส่งมาเพื่อดูแลกำกับวัดพระธรรมกายก็ส่งมาเถอะเราก็ไม่ว่า แต่ถ้ามาอยู่รวมกันแล้วต้องปฏิบัติ ให้ถูกต้องตามธรรมวินัยตามกฎเกณฑ์ของหมู่คณะ หลวงพ่อน่ะ อยู่ในสายตาเขามาอยู่ตลอดเวลาเลย หมู่คณะก็อยู่ในสายตาอยู่ตลอดเวลาเลย ถ้าผิดจริงเนี่ย มันพังไปนานแล้ว โดยเฉพาะที่หน้าวัดหน้าสภาธรรมกายสากลทางด้านทิศใต้น่ะ เขาเรียกว่าสถานีตำรวจอำเภอคลองหลวงนั่นน่ะเขาตั้งมาก่อนวัดพระธรรมกาย ถ้าของเราผิดจริงๆน่ะ เขาจับไปแล้วแล้วเขาก็ให้ข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์มั่งแล้วแต่ว่ายุคไหนสมัยไหน อะไรมันฮิตเขาก็เอาอย่างนั้นแล้วก็เอาอาวุธไปฝังเอาไว้ใต้ถุนโบสถ์ เขาก็ขยันให้ข้อหานะ เรื่อยมาเลยเป็นผู้มีอิทธิพลก็มี ปัจจุบันนี้ให้เป็นเจ้าลัทธิใหม่ เป็นศูนย์อำนาจเขาให้แต่หลวงพ่อไม่ได้รับหรอกนะ ไอ้ตำแหน่งที่เขาให้นั่นน่ะ เขาบริจาคมาเราก็ไม่รับ อะไรรับได้ล่ะก็ ถ้าที่ดินเอา เงินเอา เงินน่ะเอามาสร้างที่ดินก็สำหรับเตรียมเอาไว้สำหรับเผยแผ่ธรรม แต่ว่าให้อย่างนั้นไม่รับ ไม่รับบริจาค นี่หลวงพ่อถือโอกาสพูดตอนนี้ ใจกำลังสบาย เพราะตอนนี้ปัญหาหลวงพ่อน่ะมันหมดไปแล้วเป็นคนไม่มีปัญหาไปแล้ว เนื่องจากเขาจะเอายังไงก็เอาก็ยอมๆเขาไป ตอนนี้หลวงพ่ออยู่อย่างไม่มีปัญหาสบายอกสบายใจ แต่ว่าขอให้ดูแล สิ่งที่หลวงพ่อฝากฝังเอาไว้เมื่อเช้าให้ดีนะลูกนะ
                                                                       
                                                                      พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)                                                                
                                                                      วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒




 

 

 


 

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น: