วัดพระธรรมกายสอนอะไร ทำไมคนเข้าวัดจึงมากมายและต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ

21:59:00 Unknown 0 Comments



เรื่องราวของ วัดพระธรรมกาย ลากยาวมากว่า 20  ปี  ตั้งแต่ ได้ยินชื่อนี้มา
วันนี้จะไม่มานั่ง  แจง กรณีๆ ใดๆ ที่  สื่อทุกค่าย  กับ คนพาล
และมือที่มองไม่เห็น กำลังมะรุมมะตุมกัน  
ใครจะหาบาปใส่ตัวก็สุดแล้วแต่สติปัญญาสัมปชัญญะละครับ ! 

            เรามา มองทะลุม่านมายาสื่อทั้งหลายแหล่และหลายแหลกเหล่านั้น
            มองดู  ผลงาน ของ  วัดพระธรรมกาย  แล้ว เอาไปนึกตรึกตรองกันดูครับ ว่า ....

            ตกลง วัดนี้  น่ากลัวสำหรับใคร กันแน่ ?
ก่อนเริ่ม แนะนำตัวชัดๆ ครับ 
ผมเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย หรือเปล่า ?
ตอบครับ ผมศิษย์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เชื่อใน กฎแห่งกรรม ครับ !
            เชื่อว่า  ทำดี  ได้ดี,  ทำชั่ว  ได้ชั่ว !

เข้าเรื่องครับ 
1.  วัดพระธรรมกายสอนอะไร ?  คำถามนี้ จะตอบว่า ทำไมคนจึงมาวัดพระธรรมกาย
อย่างต่อเนื่อง และมากมายขึ้นเรื่อยๆ   หลักๆ เลยครับ ที่ผม จับประเด็นแบบค้นอดีตย้อนหลัง 46  ปี
            1.1 สอน 3  เรื่อง ครับ 
            ทาน  และ อานิสงส์ของการให้ทาน
            ศีล  และ อานิสงส์ของการรักษาศีล
            สมาธิ  และ อานิสงส์ของการเจริญสมาธิ

            1.2  สอนตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน คือ อนุปุพพิกถา



คือ การแสดงธรรมตามลำดับ  เพื่อขัดเกลาอัธยาศัยของผู้ฟัง ให้พร้อมรับธรรมะขั้นสูงขึ้นตามลำดับ 
มี  5  ประการ
๑. ทานกถา กล่าวคือทาน หมายถึง ชี้แจงแสดงคุณเรื่องการให้ทานและอานิสงส์ของการให้
๒. สีลกถา กล่าวคือศีล หมายถึง อธิบายให้เข้าใจคุณเรื่องการรักษาศีลและอานิสงส์ของการรักษาศีล
๓.  สัคคกถา กล่าวคือสวรรค์ หมายถึง การสาธยายคุณเรื่องสวรรค์ ซึ่งเป็นผลที่ได้รับจากการให้ทาน รักษาศีล เป็นต้น

( ข้อ 3 นี้ ... ผมข้อ ตั้งประเด็นอย่างนี้นะครับว่า... สำหรับคนที่ก่นด่าว่า ... วัดนี้เอาสวรรค์มาล่อ!!!...
แล้วคุณ...จะว่าอย่างไร ในกรณี อนุปุพพิกถา  ครับ ... พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นะครับ ... ขอให้คิดให้ดี!!!
... ผมไม่เคยเข้าข้างใครครับ ... ผมว่าตาม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า !!! )

๔. กามาทีนวกถา กล่าวถึงโทษแห่งกาม หมายถึง การพรรณนาโทษเรื่องของกามว่า
แม้จะเป็นความสุข แต่ก็มีความทุกข์เจือปน

๕. เนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์แห่งการออกจากกาม หมายถึง การพรรณนาถึงการออกจากกามและอานิสงส์ว่าเป็นความปลอดโปร่ง เพื่อน้อมใจให้เกิดฉันทะในการแสวงหาความสุขแท้จริง คือ ความสุขที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา

            ส่วนรายละเอียดการสอนนั้น  เขาแจงกันละเอียดจริง ๆ ครับ  ด้วยตาและด้วยใจที่ผมเฝ้าดูมา ...  นับตั้งแต่ เจ้าอาวาส  รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร สาธุชน .....
จะให้ความสำคัญเรื่อง ของความสะอาด  ความมีระเบียบ และมีวินัย  อย่างเข้มข้น 

            สะอาดขนาดไหน?  เอาว่าสะอาดตั้งแต่โถส้วม  ยันที่นอน  หัวจรด เท้า เสื้อผ้า  ทุกอย่างต้องสะอาด เรียบร้อย และความประพฤติต้องมีวินัย   ...  ก็คนที่มันมีวินัย  ที่ฝรั่ง  ญี่ปุ่น เข้ามีกันละครับ
มีคนไทยพันธ์มีระเบียบวินัย  ที่วัดพระธรรมกาย !!!  …

            ก็ในเมื่อทรัพยากรแรก คือ มนุษย์ มันได้คุณภาพขนาดนั้นแล้ว  ...
ผมไม่สงสัยเลย ว่าทำไม  วัดพระธรรมกาย จึงสามารถทำงานพระศาสนา ระดับประเทศ ระดับโลกได้  ระดับที่ ชาวบ้านตะลึง อยู่เรื่อย !
แล้วคนทั้งประเทศไทยที่สบายสบายคือไทยแท้  ก็ไม่เข้าใจว่า ... ทำได้ยังไง ?  ...
            แล้ว เราก็ทำความเข้าใจ หรือเชื่อเอาง่ายๆ ตื้นๆ ว่า... ที่เห็นมากันเยอะๆ เนี้ยะ  จ้างกันมา !!!
            ผมถึงไม่สงสัยอีกละครับ  ว่า ทำไม ประเทศไทยชัยโย  จึงอยู่ในโลกที่ 3 นิรันดร์!
            พูดแบบนี้เหมือนด่าตัวเอง  เปล่าครับ!  ผมพูดความจริงที่ผมเห็น  ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคำด่า!

            เรื่องของความสะอาด  มีระเบียบ  มีวินัย  แปลให้เห็นชัด มันก็คือ  ศีล  นั้นแหล่ะครับ
            ผมถามสั้นๆ ครับ  ซึ่งแม้แต่แมว มันก็ตอบได้
            ถาม:  คนมีศีล ดีไหมครับ ? ... คุณก็ตอบได้ครับ !

คราวนี้ ... แล้ว ไอ้เรื่อง สอนผิด สอนเพี้ยน สอนบิดเบือน นั้นหล่ะ 
ข้อนี้  ผมเห็น นักวิชาการ แต่ละคนออกมาแสดงความคิดเห็น ก่นด่าวิจารณ์กันซะมันปาก!
ผมขอถามอย่างไม่เข้าข้างวัดพระธรรมกาย  นะครับ  ... เอาคำถามในฐานะ ชาวบ้าน! กันเลย

- ที่บอกว่า ธรรมกาย  ไม่มีหลักฐานในพระไตรปิฎก  ไม่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา
ถาม :  คุณไปอ่าน ไปค้น ไปศึกษา  มาดีแล้วเหรอครับ  ...
ผม : ก็แล้วทำไม  ผมเห็นมี  หนังสือ หลักฐานธรรมกายในพระไตรปิฎก  เล่มเบ้อเร้อ
ออกมาโชว์ในห้องสมุดได้ละครับ  ไปหาอ่านเอานะครับ  ... 
ผมไม่ได้อินอะไรกับพระไตรปิฎกมากหรอกครับ
แค่เป็นพวก  พอใจหาความจริงด้วยตัวเอง  ผมเบื่อจะเชื่อพวกสือ พวกนักวิชาการ วิชาเกิน
พวกอวดตัวข่มท่าน โอ้ว่ารู้มากรู้ดี เรียนจบนู้น จบนี้ สูงส่งเหลือเกิน
แต่ที่ตัวรู้มา ผิดทั้งเพ! แล้วก็อาศัยฐานะ วุฒิการศึกษา มาพล่ามให้ชาวบ้านฟัง ...
ระวังนะครับ วจีกรรม!  ก็มีนรกรองรับของมันนะครับ
( ผมว่าตาม ไตรภูมิ นะครับ ไม่ได้ว่าตามใครทั้งสิ้น)

-  นิพพาน  เป็น  อัตตา หรือ อนัตตา !!!  ผมถามจริงๆ เถอะครับ  คุณเคยไปหรือยัง ?
... ผมมีวิธีแก้ง่ายๆ ครับสำหรับคนไทยทั้งประเทศ  ...  ที่กำลังบ้าบอเสียสติเถียงกันเรื่องนี้
คือ เราต่างก็ยังไม่มีใครไปนิพพาน ... เราก็มาพิสูจน์ด้วยกัน ไงครับ
หุบปากซะ!  แล้วก็ทำตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ ...
อะไรละครับ   ก็  ทำทาน  รักษาศีล  นั่งสมาธิ  บำเพ็ญมรรค มีองค์  8  .... 
ปฏิบัติ!!!ครับ   ไม่ใช่มานั่งเถียงกัน ! 

ผมไม่เข้าข้างใครครับ  ผมดูจากการกระทำ ... 
คนที่เที่ยวด่าเขาเนี้ยะ ...  มันเคยทำคุณประโยชน์อะไรให้ ประชาชนชาวบ้าน
สังคม ประเทศชาติ บ้างไหมครับ?
ครั้งหน้านะครับ เพื่อความดูดีมีปัญญา ดูเป็นคนมีวัฒนธรรม อารยธรรม มีเหตุผล
ถ้าได้ยินคำว่า วัดพระธรรมกาย  ... ถามหาผลงานของเขาก่อนไหมครับ  ดูก่อนว่าเขาสร้างความดี
ให้พี่น้องในชาติ ให้กับแผ่นดิน เท่าไหร่แล้ว ?
พูดแบบนี้   ก็บอกว่า ผม Bias !!! ไม่ครับ ... คือ ผมแค่อยากบอกว่า ก่อนจะด่าใครๆ ตามที่เขาว่ามา... ถามเขาก่อน สัมภาษณ์เขาหน่อย ทำความรู้จักกับเขา ด้วยตัวเราเอง ก่อน ดีกว่าครับ

ที่ว่านี้ ... ไม่ใช่ว่าสงสารวัดพระธรรมกาย หรือ คนธรรมกาย ครับ
แต่ผมสมเพชคนที่หลับหูหลับตา เชื่อสื่อ เชื่อคนพาล
เลยจะพาลพากันไปตกนรก ซะไม่ทันได้ดูตาพระตาคน

ว่าเรื่องการสอนกันต่อครับ    อย่างที่ผมบอกละครับ  มีแค่ 2  ประเด็น ใหญ่ๆ  ข้างต้น 
2  หลักใหญ่นั้น  ถูกนำมาสอนผ่านรูปแบบการอบรม ในโครงการต่างๆ ที่มีเป็นร้อยๆ โครงการครับ
ทั้งโครงการบวชพระ  บวชเณร, บวชอุบาสก, บวชอุบาสิกา, โครงการอบรมครู, นักเรียน, นักศึกษา
จะกี่โครงการ ... ผมไปค้นไปหาไปอ่านไปดูมาหมดละครับ .... เนื้อหาสาระ ก็ไม่พ้น  2  หลัก นี้!!!
แล้วมันต่างกับกระบวนการอบรมสั่งสอนคน  ของ สถาบันอื่นๆ  ยังไง?

จุดต่างมีอยู่อย่างเดียวครับ ... ขอให้อ่าน  3   รอบ เลยครับ

“ ที่วัดพระธรรมกาย เขาฝึกคนให้เอาจริงกับการพัฒนาตัวเอง กับการทำความดี”  ครับ
หาคำสำคัญในประโยคครับ กุญแจอยู่ตรงนั้น คำว่า  “จริง”  ไงครับ
คนที่นี้เขาเอาจริงกับความดีทุกอย่าง

ณ  จุดนี้ ละครับ ที่มันต่าง และมันเป็นเรื่องราวยาวเป็นมหากาพย์ 
ถึงวันนี้ และไม่รู้วันหน้า วันไหน จะเข้าใจกันได้
ระหว่างคนไทยสบายสบายอะไรก็ได้ คือ ไทยแท้ 
กับ คนไทยพันธ์ที่มีระเบียบวินัยและจริงจังกับการทำดี แบบ สาธุชนคนวัดพระธรรมกาย !!

ผมนั่งดู นั่งชม ก็เพลียจิตแทนครับ 

ทำทาน  เขาก็ทำจริง  ก็เพราะเขาทำจริง !  เขาจึงสามารถสร้างวัดได้ใหญ่โตมโหฬารปานนั้นครับ
ผมไปพูดไปคุยกับหลายคน ( คุยด้วยทั้งหมดไม่ไหวหรอกครับมากันเป็นแสน!!!) …
พวกเขาตั้งใจสร้างวัด  เอาไว้ให้เป็น  พุทธหลักฐาน ให้คนอีก 100 ปี 500 ปี 1000 ปี ข้างหน้า 
ได้มาศึกษาหลักธรรมะคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ 
เขามองไกล Hight Primium ไปนู้นแล้วครับ

มันทำให้ผมคิดครับว่า ... 
ปัญหาของวัดพระธรรมกาย  คือ  พวกเขาพัฒนาศักยภาพของความเป็นมนุษย์ ไปได้ไกลเกิน  
เกินธรรมดาสามัญของมนุษย์พันธ์ไทย ไปแล้วครับ  ... 

และ มันก็เป็นปัญหาตรงที่ว่า ... พวกเขาไม่สามารถสื่อสารถ่ายทอด แนวความคิด
วิถีแห่งการพัฒนาของพวกเขา ให้ สังคม Get  ได้ครับ ... 

มันก็เหลือวิธีเดียว  คือ ต้องเข้ามาดูมารู้มาศึกษาด้วยตัวเอง,  ซึ่งคนที่มาก็เข้าใจได้ ไม่ยากครับ
เพราะ  ระบบ ในวัดพระธรรมกาย ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ
ทุกอย่าง  เป็น  ระบบ มีระเบียบ มีเหตุผลรองรับ ชัดเจนทุกอย่าง
แต่คนส่วนใหญ่ละครับ ! ที่นั่งอ่านแค่หนังสือพิมพ์  ดูทีวี ที่บ้าน !!!
....  ผมว่า มันเป็น โจทย์ใหญ่ของวัดพระธรรมกาย ครับ
ที่ต้อง เร่งหาวิธีสื่อสารกับสังคมทั้งในและต่างประเทศ ให้เข้าใจองค์กรของตัวเอง .... 

เดี๋ยวออกอ่าวครับ

เขาจริงกับการรักษาศีล  แปลว่าอะไรครับ  คือ
เขาจริง กับ ความรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทั้งตัวเอง และผู้อื่น  ...  

คุณก็คิดได้นี่ครับ ตรรกะ ง่ายๆ ...
ถ้าคนไทยทุกคน  สามารถรักษาศีล เป็นคนมีศีล 
ได้เหมือนอย่างคนที่วัดพระธรรมกาย  .... 
บ้านเมืองมันก็สงบไปแล้วครับ ไม่ใช่แค่ 99 %  แต่ 100 % ครับ !!! 

สำหรับการปฏิบัติธรรม ...  ภาพนี้  เรียกว่า  แทบไม่ปรากฎออกไปสู่สายตาสังคมเลยครับ 
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ?  
คงเป็นเพราะ สื่อทั้งหลายประโคมสร้างภาพลวงปิดตาประชาชนไปแล้วว่า ...
เป็นวัดที่เน้นการบริจาค , 

จึงทำให้ ...
ภาพที่เป็นหัวใจของวัดพระธรรมกาย  ซึ่งทางวัด นับตั้งแต่หลวงพ่อเจ้าอาวาส พระอาจารย์ทุกรูป 
เจ้าภาพ สาธุชน ให้ความสำคัญอันดับหนึ่ง คือ  การเจริญสมาธิภาวนา  ....
อ่อนด้อยเลือนลางไปเลย, ...

แต่ ความจริง ตลอดเวลา 20  ปีที่ผมเฝ้าสังเกตุการณ์ดู
คือ  การเจริญสมาธิภาวนา ของที่นี้ เข้มข้นไม่แพ้ที่ไหนในโลกครับ ...
โครงการทุกโครงการ เน้น การฝึกคน ที่ใจ ... 
ทาน  ศีล นั้นเบื้องต้น ครับ, ... เบื้องสูง ของการฝึกคน คือ ฝึกใจ คือ สมาธิ ! 
ผมว่านี้ละครับ คือ สุดยอดกลยุทธ์ ของ วัดพระธรรมกาย  ที่ใครๆ เข้าไม่ถึง
แต่... เป็นอะไรที่ ทางวัดเอง ป่าวประกาศ พยายามเชิญชวน ผู้คนจากทั่วโลกให้เข้ามาพิสูจน์
ตั้งแต่สร้างวัด ปี 2513   ครับ   วันนี้ ผมบอกแล้วนะครับ !!!
ที่นี้ มีโครงการปฏิบัติธรรมสำหรับประชาชนตลอดทั้งปี ครับ มีหลากหลาย สำหรับทุกเพศ ทุกวัย  
และ ทุกโอกาสด้วยครับ ...  รู้ยังครับ ?

สิ่งที่เขาทำ  และ เป็นผลดี  ต่อ ชีวิตของผู้คนนับหมื่น นับแสน นับล้าน นั้น มีมากครับ 
คิดง่ายแบบชาวบ้านๆ  ที่เราท่าน ต่างต้องการแสวงหา ความดี ความสุข ความสำเร็จ ให้กับชีวิต !!!  
อย่าไปคิดอะไรซับซ้อนบ้าบอเหมือน พวกนักการเมืองการปกครอง ครับ

ถ้าไม่ดีจริง ... มันจะมีคนเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น แล้ว ก็เพิ่มขึ้น อย่างนี้หรือ ครับ ? !!! 
และคนที่มาเพิ่ม  ไม่ได้เป็นเศรษฐีมหาศาล อะไรที่ไหนเลยครับ
ขอบอกจากสองตา ที่ผมเห็นมานะครับ ...
มีทุกระดับฐานะ การศึกษาอาชีพครับ !!!  ไม่ต้องเชื่อผม  แต่ขอให้ไปดูเองครับ.

นาทีนี้  20  กว่าปี ที่เฝ้าดูมา  ผมบอกเลยครับว่า
วัดพระธรรมกาย คือ วัดของประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดิน  !
เป็นที่สร้างคนให้รักความสะอาด  ให้เป็นคนสะอาด  ให้เป็นคนมีระเบียบ ให้เป็นคนมีวินัย
ฝึกสอนคน ให้รักษาศีล  และ เป็นคนมีน้ำใจเป็นผู้ให้  เป็นคนคิดดี พูดดี ทำดี ....
และ จริงกับการทำความดี ! … เขาสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ครับ
วัดพระธรรมกาย เป็นมิตรกับชาวบ้านประชาชนทุกคนที่รักดี และใฝ่ดี
อยากมีชีวิตที่ พบความสุข มีแนวทางสู่ความสำเร็จในชีวต
ใครๆ เขามาแล้ว เขาได้พบกับความสุข ความสำเร็จ
เขาก็บอกต่อ ชวนเพื่อน ชวนญาติพี่น้อง คนที่เขารัก มา
มันก็ง่ายๆ แค่นี้เอง ครับ ทั้งหมดทั้งมวลทั้งสิ้น!!!

แต่วัดพระธรรมกาย   เป็นที่น่ากลัว  สำหรับคนที่ไม่ต้องการเห็นคนดี เห็นคนเก่ง
เต็มประเทศแค่นั้นครับ

โพสดี ๆ จากระทู้พันทัป สมาชิกหมายเลข 3012511




 

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น: