เขยน้อยธรรมดา

19:14:00 Unknown 0 Comments




มีชายสูงอายุคนหนึ่งมีฐานะร่ำรวย ตะแกมีลูกสาวอยู่สองคน พวกหนุ่มๆต่างก็มุ่งหวังที่จะเป็นลูกเขยของแกกันทั้งหมู่บ้าน แต่ก็ประสบความสำเร็จเพียงสองคนเท่านั้น เขยคนโตเป็นคนประจบพ่อตาเก่ง มีนิสัยคล้อยตามพ่อตาจนทำให้พ่อตาออกจะลำเอียงต่อเขยคนเล็ก เพราะว่าเจ้าลูกเขยคนเล็กบวชมานาน    แก่วัด พูดน้อย มีความคิดอิสระ ไม่คล้อยตามพ่อตาง่ายๆและคำพูดที่พ่อตาไม่ชอบมากก็คือ ธรรมด๊าธรรมดาของเจ้าเขยเล็ก
วันหนึ่ง ว่างจากธุระอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อตาและเขยใหญ่เขยเล็ก พ่อตาก็คิดที่จะลองปัญญาของเจ้าลูกเขยทั้งคู่ขึ้นมา จึงถามเจ้าเขยใหญ่ก่อนว่า "เอ็งรู้ไหม ?  X ทิดใหญ่ว่า เพราะอะไร ? ที่ทำให้เอ็งมาได้กับลูกสาวข้า"
"ก็เพราะบุญวาสนาที่เราทั้งคู่ได้สั่งสมมาแต่ปางก่อนน่ะสิครับ ชาตินี้ถึงได้เกิดมาเป็นเนื้อคู่กัน
ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันเลย
หากไม่ใช่คนที่เคย
ก็ป่วยการที่จะชะเง้อคอคอย
แล้วอีกอย่างก็ด้วยอำนาจเสน่ห์ของคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเป็นคนมีน้ำใจ ใครๆก็นับถือยกย่อง พวกหนุ่มๆ ต่างก็ใจจดใจจ่อที่จะได้คุณพ่อเป็นพ่อตาเหมือนใจจะขาดไปตามๆกัน" ฯลฯ สารพันเหตุผล ที่จะยกยอพ่อตา ซึ่งล้วนแต่ไพเราะจับใจพ่อตาทั้งนั้น ยิ่งซักเจ้าเขยใหญ่ก็ยิ่งตอบแบบวัวพันหลัก คือไม่ได้ไปไหน วนอยู่อย่างนั้นนั่นเอง ซึ่งล้วนแต่เป็นคำเยินยอพ่อตาทั้งนั้น จนบางครั้งก็ทำให้พ่อตาสงสัย เพราะว่าความดีที่เจ้าเขยใหญ่ยกมาปอปั้นนั้น บางอย่างก็ไมมีในตัวของแกเลย ฉะนั้นถึงจะรักเขยใหญ่แต่ก็ไม่ค่อยวางใจนักเพราะ
รักตาลหลงหวานขึ้นปีนต้น
ระวังตนตีนมือระมัดมั่น
เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครัน
ถ้าพลั้งพลันจะเจ็บอกเหมือนตกตาล
เศรษฐีคนนี้ถึงจะรักเจ้าเขยใหญ่อย่างไร ก็ยังมีสติเพราะเกรงจะเจ็บอกเหมือนตกตาล จึงยังไม่ให้คะแนนเสน่หาเจ้าเขยใหญ่อย่างหมดเนื้อหมดตัว แล้วแกก็หันมาถามเจ้าเขยเล็กว่า " X ทิดเล็กล่ะ เอ็งรู้สึกอย่างไร ? ที่มาได้กับลูกสาวข้า"
"ธรรมดาครับพ่อ" เจ้าเขยเล็กตอบสั้นจู๋ "ธรรมดายังไงวะ" พ่อตาถามซ้ำด้วยเสียงสะบัดอย่างแสดงชัดว่าไม่พอใจ 
"ประเวณีมีทั่วทุกตัวสัตว์
 มิจำกัดเพศความตามวิสัย
 เป็นมนุษย์ครุฑาสุราลัย
 สุดแต่ใจจะปรองดองครองคู่กัน "
เจ้าเขยเล็กตอบพ่อตาด้วยสำนวนพระอภัยมณี "เกิดเป็นคนมันก็ต้องมีคู่ ถึงสัตว์ก็ยังมีคู่นี่ครับพ่อ ธรรมด๊าธรรมดา" "แล้วที่เอ็งได้ข้าเป็นพ่อตาล่ะ เอ็งรู้สึกอย่างไร ? " พ่อตาเค้นถาม ด้วยหวังว่าจะได้กินลูกยอจากเจ้าเขยเล็กบ้าง แต่เจ้าเขยเล็กกลับตอบว่า "ธรรมดาครับพ่อ"  "มันธรรมดายังไงวะ ? " "ก็ ... เป็นธรรมดาที่ได้เป็นลูกเขยเศรษฐี หนูตกถังข้าวสาร ก็ต้องยินดีเป็นธรรมดาครับพ่อ"
คำตอบของเจ้าเขยเล็กทำเอาพ่อตาสะอึก ไม่ชอบใจเลย แต่ว่าเหตุผลของมันก็ง่ายจนเห็นได้ชัด โกรธมันไม่ลงเหมือนกัน ถึงจะไม่ชอบใจ แต่ก็ต้องคล้อยตามมัน เพราะว่ามันพูดความจริง ถึงจะไม่ชอบแต่ก็เกลียดมันไม่ลง
อยู่มาวันหนึ่ง พ่อตาลูกเขยก็เดินทางไปด้วยธุระบางอย่างทางเรือ ลูกเขยเล็กนั่งพายอยู่ข้างหน้า ลูกเขยใหญ่นั่งพายอยู่ข้างหลัง  ส่วนตัวพ่อตาก็นั่งอยู่ตรงกลาง ตอนไปทีแรกก็ไม่มีอะไร แต่พอนั่งไปนานๆพ่อตาชักเบื่อเหลือบไปเห็นกอไผ่เข้า  ก็เลยถามเจ้าเขยใหญ่ว่า "หน่อไผ่ทำไม?มันถึงแทงดินขึ้นมาได้วะ X ทิดใหญ่" "ก็หน่อไผ่มันแข็งและแหลมนี่ครับคุณพ่อ" เจ้าเขยใหญ่ตอบ "แล้วเอ็งล่ะ X ทิดเล็ก เอ็งมีความเห็นว่าอย่างไร?" "ธรรมดาครับพ่อ" "ธรรมดายังไงวะ" "ก็มันไม่จำเป็นต้องแหลมมันก็ยังแทงดินขึ้นมาได้ มันเป็นธรรมดาของมันครับ ก็ดูแต่เห็ดสิ มันไม่แหลมแล้วก็ไม่แข็ง แต่มันก็ยังแทงดินทะลุขึ้นมาได้เลยครับ มันเป็นของธรรมด๊าธรรมดาครับพ่อ" คำตอบของเจ้าเขยเล็กทำให้พ่อตาต้องนิ่ง เพราะไม่รู้จะหาข้อโต้แย้งอย่างไร จนกระทั่งแกเหลือบไปเห็นของสิ่งหนึ่งเข้า แกก็เลยถามเจ้าเขยใหญ่ว่า "ทำไม ? เป็ดมันถึงลอยน้ำได้วะ เจ้าทิดใหญ่" "ก็มันมีขนนี่ครับคุณพ่อ ขนของมันไม่เ X ยกน้ำ ก็เลยทำให้มันลอยได้ครับ คุณพ่อ" เจ้าเขยใหญ่ตามหลักวิชาการ "เออ ! จริงของเอ็ง แล้ว X ทิดเล็กล่ะ ? เอ็งว่าอย่างไร ? ที่เป็ดมันลอยน้ำได้"  แกยอมรับพร้อมทั้งถามเจ้าเขยเล็กด้วยหวังจะต้อนให้จนมุม "มันเป็นธรรมดาครับพ่อ" "ธรรมดายังไงวะ ?" "ก็ลูกมะพร้าวมันมีขนเมื่อไหร่ล่ะ  แต่มันก็ยังลอยน้ำได้ มันเป็นธรรมดาของมันครับ ถ้ามันจะลอย ถึงไม่มีขนมันก็ลอยได้ เป็นธรรมด๊าธรรมดาครับพ่อ" พอได้ฟังคำตอบก็ทำให้พ่อตานิ่งอีกแล้วครับทั่น  พอผ่านจากฝูงเป็ดก็มาเจอเอาฝูงห่านเข้า พ่อตาก็ถามเจ้าเขยใหญ่ว่า "ทำไม ? ห่านมันถึงร้องเสียงดังวะ  X ทิดใหญ่"  "ก็มันคอยาวนี่ครับคุณพ่อ"  "เออ !จริงของเอ็ง แล้ว X ทิดเล็กล่ะ" ร้องถามเจ้าเขยเล็กบ้าง "ธรรมดาครับพ่อ" "ธรรมดา ยังไงวะ ?"  "ก็ดูแต่อึ่งอ่างสิ คอมันสั้นนิดเดียวแต่มันก็ร้องเสียงดังเหมือนกัน" พ่อตาเป็นอึ่งกิมกี่อีกแล้วครับทั่น
พอเสร็จธุระแล้วก็พากันกลับบ้าน พอเรือจอดท่าแล้ว ต่างก็พากันขึ้นจากเรือเดินเข้าบ้าน พ่อตาก็เหลือบไปเห็นกอหญ้าที่ข้างกระไดใกล้ตุ่มน้ำสำหรับล้างเท้า ก็ถามเขยใหญ่ว่า "ทำไม ? หญ้ามันจึงขึ้นรกเฉพาะตรงนี้วะ X ทิดใหญ่" "ก็มันถูกน้ำราดรดทุกวันนี่ครับคุณพ่อ มันก็งามน่ะสิ" "เออ ! จริงของเอ็ง แล้ว X ทิดเล็กล่ะ ทำไม ? หญ้ามันถึงงามเฉพาะตรงนี้" แกหันไปไล่เบี้ยเอากับเจ้าเขยเล็ก "มันเป็นธรรมดาครับพ่อ" เจ้าเขยเล็กก็ยังยืนยันคำว่าธรรมดาของตน เอ ! ตลอดเวลาเอ็งก็พูดแต่คำว่าธรรมดา แล้วเรื่องนี้มันธรรมดายังไงวะ ?” พ่อตาชักเริ่มโกรธ ก็มันงอกงามของมันเองถ้ามันไม่งอกงามถึงจะรดน้ำอย่างไรมันก็ไม่งอกงาม ดูแต่หัวพ่อสิ เห็นรดน้ำอยู่วันละหลายๆเที่ยวยังไม่เห็นเส้นผมมันจะขึ้นนี่ครับพ่อ
เฮ้อ ! ก็เลยสรุปความได้ว่าเจ้าสองเขยนี่มีพ่อตาศรีษะล้าน แล้วเจ้าเขยเล็กก็ดันไปพาดพิงถึงศรีษะของพ่อตาเข้า ท่านผู้อ่านก็ลองคิดเอาเองเถอะครับ ข้าพะเจ้าไม่กล้าเขียนหรอกมันจะสยดสยองเกินไปอ่ะ
การที่เราเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา ก็จะช่วยให้เรื่องต่างๆยุติ และไม่ต้องค้นคว้าหาสาเหตุให้มันปวดสมอง ไม่ต้องพูดมาก พูดสั้นๆ แต่ก็ตรงกับความเป็นจริง ถึงจะไม่ถูกใจคนฟังนัก แต่ก็หาเหตุผลมาค้านยาก เหมือนอย่างเจ้าเขยเล็ก แต่ก็ต้องถูกเกลียดชังอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เพราะดันไปตอบกระทบปมด้อยของพ่อตาเข้า  ก็เลยขอเตือนท่านผู้อ่านที่เป็นเขยเล็กหน่อยนะครับว่าพยายามอย่าทำให้คุณพ่อตาโมโหโกรธา เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการถูกหยึดภริยาคืน หรือโดนตัดออกจากกองมรดกก็เป็นได้ ( ด้วยความปรารถนาดีอ่ะ อิอิอิ )

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น: